Béla Bartók
Duets for 2 Violin
Bartok (ค.ศ.1881-1945) เกิดในเมืองเล็กๆ ที่ประเทศฮังการี ซึ่งปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของประเทศโรมาเนีย พ่อและแม่ของเขาเป็นครูดนตรีและนักดนตรีสมัครเล่น เขาเริ่มเรียนเปียโนเมื่ออายุ 5 ปีและเริ่มประพันธ์ดนตรีเมื่ออายุ 9 ปี หลังจากนั้น ได้เข้าศึษาดนตรีต่อที่บูดาเปสต์ และกลับไปสอนเปียโนที่นั้นอีกในปีค.ศ. 1907
ในปีค.ศ. 1904 เขาได้ฟังผู้หญิงชาวทรานซิลเวเนียร้องเพลง เสียงร้องนั้นได้จุดประกายความรักในดนตรีพื้นบ้านของฮังการี โรมาเนียและพื้นที่แถบนั้นกับเขา โดย บาร์ต็อก ได้ใช้เครื่องอัดเสียง ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้น เดินทางอัดเสียงดนตรีพื้นบ้านเหล่านั้นนับพันเพลง ในช่วงชีวิตของเขา เขาได้ตีพิมพ์ทำนองพื้นบ้านเหล่านั้นถึงเกือบสองพันเพลง และได้รับการขนานนามให้เป็นต้นแบบแห่งการศึกษาในสาขามานุษยดุริยางคศาสตร์ในสมัยนั้น
ผลงานของ Bartok เป็นการผสมผสานกันระหว่าง องค์ประกอบของดนตรีพื้นบ้านประเทศฮังการี โรมาเนีย และแผ่นดินใกล้เคียง กับดนตรีตะวันตกในขนบ และนำไปสู่การสร้างดนตรีที่เป็นเอกลักษณ์ของเขาเอง ซึ่งภายหลังจากช่วงชีวิตของเขา บาร์ต็อก ยังได้เป็นแรงบันดาลใจให้แก่นักมานุษยดุริยางงคศาสตร์รุ่นใหม่มากมายมาจนถึงปัจจุบัน
Violin Duos เกิดจากการแลกเปลี่ยนจดหมายระหว่าง Bartok กับ Erich doflein นักไวโอลินชาวเยอรมัน
Erich doflein ขอให้ Bartok จัดทำหนังสือ For Children ของเปียโน ให้เป็น Violin Duos เนื่องจาก Erich doflein และภรรยาของเขา จะทำแบบสอนไวโอลิน แต่ยังขาด “real music” ที่เหมาะสมกับการสอน แต่ Bartok ก็ไม่เรียบเรียงให้จาก หนังสือ For Children แต่เขาประพันธ์ขึ้นใหม่ ฃ
The For Children set for piano และ the 44 Duos for violin มีจุดที่คล้ายกันอยู่หลายจุด คือ มีการเรียบเรียงมาจาก สำเนียงดนตรีพื้นบ้าน ในแบบเรียนThe For Children ใช้สำเนียงพื้นบ้านHungary กับ Slovakia
ใน the 44 Duos for violin มีการเรียบเรียงมาจาก สำเนียงดนตรีพื้นบ้าน Hungary (14 duets) Slovakia (13 duets), but are also Romanian (9), Ruthenian (4), Serbian (1), and Arabian (1) และTwo of the Duos (#35 and 36) เขาได้ประพันธ์ขึ้นใหม่ในรูปแบบของดนตรีพื้นบ้าน
โดยยังคงสืบสานวัฒนธรรมดนตรีตะวันตก เข้าสร้างดนตรีใหม่จากการนำดนตรีพื้นบ้านมาผสมผสานกับดนตรีตะวันตกและดนตรีสมัยใหม่
Unicum - Hungary
เหล้าที่มีชื่อเดิมว่า "Unicum" - เครื่องดื่มประจำชาติของประเทศฮังการี มันสามารถระบุได้อย่างง่ายดายไม่เพียง แต่ด้วยรสขม แต่ยังโดยรูปทรงกลมที่เป็นเอกลักษณ์ของขวดที่มีกากบาทสีทองบนฉลาก ความแข็งแกร่งของเหล้าฮังการีคือ 40 องศา รสชาติของบอระเพ็ดขมมีความหนืดและมีสีน้ำตาลเข้ม เครื่องดื่มไม่เพียง แต่มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ แต่ยังมีคุณสมบัติในการรักษาบางอย่าง มันประกอบด้วยสมุนไพรและเครื่องเทศมากกว่าสี่สิบชนิด-พืชสมุนไพรสำหรับโรคต่างๆ ตามธรรมชาติแล้วผู้ผลิต Zwack Unicum จะเก็บสูตรลับการรักษาเครื่องดื่มนี้ไว้ แม้แต่สูตรที่ไม่รู้จักปั่นหลัก เขาใช้ในการผลิตส่วนผสมเครื่องดื่มในรูปแบบผสมอยู่แล้ว
ความเป็นมาของ Unicum
Unicum สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 18 ระหว่างงานเลี้ยงในปี ค.ศ. 1790 จักรพรรดิโจเซฟที่ 2 รู้สึกถึงความเจ็บปวดในต้นโอ๊ก ในทันใดที่แพทย์ (ข้าราชสำนัก) ได้รับเรียกซึ่งหนึ่งในนั้นคือสโลวะเกียได้มอบยาใหม่ให้แก่ซาร์ หลังจากรับจักรพรรดิรู้สึกโล่งใจและอุทาน: Das ist ein Unikum! และนี่หมายถึง“ ไม่เหมือนใคร!” ดังนั้นชื่อของการเยียวยากระเพาะอาหารใหม่ที่น่าทึ่งซึ่งตอนนี้เรารู้จักกันในชื่อ Unikum Balsam ปรากฏ เป็นเวลานานในร้านขายยามันขายเป็นยาเท่านั้น ต่อจากนั้นลูกหลานของสโลวาเกียได้ก่อตั้งการผลิตสุราวิเศษ ระหว่างและหลังสงครามโลกครั้งที่สองโรงงานหลายแห่งถูกทำลายบางแห่งเป็นของรัฐบาล (คอมมิวนิสต์) แห่งฮังการี Tsvaki 0จึงย้ายการผลิตของพวกเขาในสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ปี 1949 ได้มีการผลิตบาล์ม "Unicum" อีกครั้ง ในปี 1987 การผลิตได้ถูกจัดตารางใหม่อีกครั้ง